วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อบต.จัดสร้างทับป่าช้า เตรียมจะทำพิธีขอขมาและตั้งศาลให้เพื่อลดความเฮี้ยนลง



เผ่นหนี-บ้านผีสิง! อบต.จัดสร้างทับป่าช้า ให้คนยากจนเข้าอาศัย เตรียมจะทำพิธีขอขมาและตั้งศาลให้เพื่อลดความเฮี้ยนลง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลองครักษ์ หมู่ 7 อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังจากชาวบ้านร่ำลือว่ามีบ้านผีสิงหลอกหลอนผู้คนในเขต ต.องครักษ์ ได้พบกับนายสุพจน์ ผมทอง นายก อบต.องครักษ์ ยอมรับว่ามีเรื่องเกิดขึ้นจริง พร้อมกับพาไปที่บ้านเลขที่ 980/1 หมู่ 7 ต.องครักษ์ ริมถนนทางเดินเข้าวัดยางมณี ข้างรั้วหลังโรงเรียนวัดยางมณี ลักษณะเป็นบ้านก่อปูนชั้นเดียว กว้าง 8 เมตร ยาว 8 เมตร ไม่มีรั้ว หลังคากระเบื้องลอนคู่ มีประตูเข้าออกทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน มีหน้าต่างทาสีฟ้าโดยรอบ ผนังด้านนอกมีข้อความเขียนว่า โครงการบ้านท้องถิ่นไทย บริเวณพื้นดินรอบบ้านมีก้านธูปปักอยู่หลายก้าน เมื่อไขกุญแจเข้าไปพบว่าเป็นห้องโล่ง ห้องน้ำอยู่ท้ายห้อง ที่พื้นใต้หน้าต่างด้านข้างมีแจกันใส่ดอกไม้และกระถางธูป มีขวดน้ำ อาหาร ผลไม้เครื่องเซ่นไหว้ ที่ฝาผนังอีกด้านมีกระจกแขวนอยู่พร้อมทั้งแป้ง น้ำหอม และหวี มีกลิ่นธูปจางๆในห้อง

นายสุพจน์ ผมทอง นายก อบต.องครักษ์ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2550 อบต.องครักษ์มีโครงการบ้านท้องถิ่นไทย จัดสร้างเป็นบ้านพักอาศัยให้ผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในพื้นที่ จากการสำรวจมีราษฎรหลายคนยากจนต้องการความช่วยเหลือ เมื่อทำประชาพิจารณ์แล้วสรุปได้ว่า นางเสนาะ ผ่องโอภาส อายุ 78 ปี ซึ่งสร้างเพิงอยู่หลังวัดยางมณีสมควรได้รับความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ เนื่องจากนางเสนาะมีฐานะยากจน เป็นผู้ ชรายากไร้อยู่คนเดียว ไม่มีอาชีพและรายได้ ลูกหลานแยกย้ายไปมีครอบครัว นานๆถึงจะกลับมาเยี่ยมทำให้ไม่มีคนดูแล ต้องเก็บผักใกล้บ้านมาทำอาหารประทังชีวิต บางวันจะไปกินอาหารที่วัดหรือเพื่อนบ้านนำอาหารมาให้ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว อบต.องครักษ์ได้จัดสรรงบประมาณ 98,000 บาท สร้างบ้านชั้นเดียวให้มีน้ำไฟเรียบร้อย โดยใช้ที่ดินของวัดยางมณี ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนวัดยางมณี

นายก อบต.องครักษ์เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อสร้างบ้านเสร็จเดือน ธ.ค. 2550 ได้ทำพิธีมอบให้นางเสนาะก่อนย้ายเข้าไปพัก แต่อยู่ได้เพียง 2 คืนก็ขนข้าวของกลับไปอยู่ที่เพิงพักหลังเก่าโดยไม่บอกเหตุผล จึงพยายามสอบถามอยู่นานจนนา
งเสนาะเปิดเผยว่าถูกผีผู้หญิงรังควานหลอกหลอนจนไม่เป็นอันหลับอันนอน และหวาดผวาเกือบจะเป็นบ้า หลังจากนั้นมีชาวบ้านอีก 2 รายขอเข้าไปทดลองอยู่ แต่อยู่ได้คืนเดียวก็เผ่นออกมา บอกว่าโดนผีหลอก ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าอยู่อีก ชาวบ้านจุดธูปกราบไหว้หน้าบ้าน บางคนใจกล้าเอาอาหารเข้าไปเซ่นไหว้ในบ้าน

ส่วนนายขวัญพงษ์ วงศ์ดิษฐ์ อายุ 61 ปี ราษฎรในหมู่บ้านที่เคยโดนผีหลอก เล่าว่า ตอนบวชพระก็อยู่ในป่าช้ามาตลอด เพิ่งสึกออกมาจึงอาสาเข้าไปนอนพิสูจน์ ปรากฏว่าเพียงคืนเดียวก็หนีกระเจิงออกมาแทบไม่ทัน ถูกผีเล่นงานมีทั้งดึงขา ผีอำเหมือนมีของหนักทับหน้าอก และบีบคอจนหายใจไม่ออก ผีผู้หญิงในบ้านบอกว่าโกรธที่ไปสร้างบ้านรุกที่ของเขาและยังเดินข้ามหัว เพราะเขาอาศัยอยู่ตรงประตูทางเข้าบ้าน ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวจน ไม่มีใครกล้าเดินผ่านบ้านหลังนี้ตอนกลางคืน

ด้านนางเสนาะ ผ่องโอภาส เจ้าของบ้าน บอกว่า เมื่อเข้าไปอยู่วันแรกก็เจอดี ช่วงกลางวันมีเพื่อนบ้านไปเยี่ยมและขอนอนพักด้วย กลับมีอาการเหมือนถูกผีสิง ส่งเสียงกรีดร้องมองตาขวางจนตนอยู่ไม่ได้ ต้องวิ่งหนีออกมา ตอนกลางคืนนายขวัญพงษ์ วงศ์ดิษฐ์ อาสาเข้าไปนอนเป็นเพื่อนเพื่อพิสูจน์เรื่องผี ก็เจอผีหลอกเข้าเต็มๆ นางเสนาะเล่านาทีระทึกขวัญต่อไปว่า ตนเห็นกับตาช่วงที่นายขวัญพงษ์โดนผีหลอก มีทั้งถูกดึงขา ขึ้นนั่งทับหน้าอก จนต้องพากันหนีออกจากบ้านกลางดึก และไม่กลับไปอยู่ในบ้านนั้นอีกเพราะกลัวจะช็อกตาย ขออาศัยที่เพิงหลังเก่าดีกว่า ทุกครั้งที่ผ่านไปตอนกลางคืนจะเห็นมีคนยืนอยู่หน้าบ้านตลอด ถ้าไม่ใช่ผีแล้วจะเป็นอะไร ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน

ขณะที่นายสมพร อมิธิดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.องครักษ์ กล่าวว่า ลูกบ้านและครูในโรงเรียนซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กับบ้านหลังนี้มักเห็นสิ่งผิด ปกติ โดยตอนกลางคืนจะเห็นแสงเรืองรองออกมาจากบ้าน บางครั้งมีลำแสงพุ่งผ่านหลังคาขึ้นไป บ้างได้ยินเสียงคล้ายคนเดินอยู่ในบ้านจนพากันขนลุกขนพองไปตามๆกัน สำหรับบริเวณที่ตั้งของบ้านเดิมเป็นป่าช้าและเชิงตะกอนเผาศพ ชาวบ้านที่เคยโดนผีหลอกบอกว่าเห็นผีสาวหน้าตาสวย นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบเฉียง ซึ่งตน

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น