ทีแรกผมก็ไม่เชื่อคำพูดเก่าๆ ที่ว่า คนแก่กับเด็กๆ
และคนเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีโอกาสโดนผีหลอกมากที่สุด
ผมคิดว่าเป็นความเชื่อเลอะๆ หรืองมงายมากกว่า
จนกระทั่งเจอะเจอเข้ากับตัวเองอย่างจังๆ
คราวนี้ผมเชื่อสนิทเลยละครับ
เรื่องนี้ถ้าจะพูดถึงเหตุผลก็เข้า เค้าไม่น้อย
ตอนแรกผมลืมคิดไปว่าบุคคลสามประเภทที่อาจจะถูกผีหลอกหลอนได้ง่ายๆ นั้น
เพราะร่างกายอ่อนแอ กำลังใจหรือพลังจิตก็เลยอ่อนลงไปด้วย
เปิดโอกาสให้ภูตผีปีศาจเข้ามาปรากฏให้เห็นได้อย่างง่ายดายที่สุด
อาชีพขับแท็กซี่ทำให้ผมเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องตัวเองได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
แม้จะไม่ร่ำรวยหรือสุขสบาย แต่ก็ไม่ถึงกับอดอยากปากแห้ง
ถึงจะต้องเช่ารถเถ้าแก่ขับกะกลางคืนไปถึงตี 2 ตี 3 แต่ก็เคยชินเสียแล้วครับ
แถมร่างกายในวัยหนุ่มก็แข็งแรง
ห้องเช่าผมอยู่ใกล้ๆ อู่ที่ห้วยขวาง ใกล้ๆ กับถนนสุทธิสาร
เพื่อนฝูงอาชีพเดียวกันมาเช่าอยู่หลายคน ผมอยู่ห้องชั้นสองใกล้ๆ กับห้องน้ำ
เลยสะดวกสบายตามสมควร...จนกระทั่งวันหนึ่งมีผู้โดยสารสาวสวยขึ้นรถที่สะพาน
ควายไปโรงพยาบาลราชวิถี บอกว่าเป็นไข้หวัด...ไอแค่กๆ ตลอดทาง
สรุปว่าผมติดหวัดจากเธองอมพระราม ต้องไปหาซื้อยาที่ร้านหมอตี๋แถวนั้น
ขับรถไม่ไหว ต้องนอนซมอยู่ในห้องทั้งวัน ปากคอขมไปหมด
แต่ยังดีที่พอจะไหว้วานเพื่อนข้างห้องไปซื้อโจ๊กซื้อข้าวต้มปลามากินได้
คืนแรกก็เจอดีเลยแหละคุณ!
ราว 4-5 ทุ่มได้ ผมนอนเหงื่อออกจนเสื้อผ้าชุ่มโชกไปหมด อาศัยความรู้นิดๆ
หน่อยๆ ว่าพิษไข้ออกมากับเหงื่อ ยิ่งออกมากยิ่งดี
เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเหนอะหนะ แล้วสวมเสื้อยืดหนาๆ ให้อุ่นอกเข้าไว้
กินโอวัลตินกับขนมปังสองแผ่น...ไม่ได้หิวโหยหรืออยากกินหรอกครับ
แต่ว่าได้เวลากินยาหลังอาหารค่ำน่ะ
เสร็จสรรพว่าจะเข้าห้องน้ำตามที่พอรู้ว่า อย่าให้ท้องผูก กับการระบายของเหลวออกจากร่างกายก็เป็นการช่วยให้หายไข้หวัดเร็วขึ้น...
เสียงใครอาบน้ำซ่า...ดังแว่วมาเข้าหู!
ตอนแรกผมนึกว่าใครมาอาบน้ำใน�
�้อง ใกล้ๆ แต่เอ...มันดังมาจากในห้องผมเองทั้งๆ
ที่ไม่มีห้องน้ำซักห้อง...คงจะเป็นเพราะพิษไข้หรือฤทธิ์ยาทำให้ประสาท
ฟั่นเฟือน หูอื้อจนฟังอะไรเลอะเลือนไม่ได้ศัพท์ละมั้ง?
รอจนเสียงนั้นเงียบหายไป ผมเข้าห้องน้ำ
ล้างหน้าตากับเนื้อตัวแล้วกลับมาปิดไฟนอนห่มผ้านิ่งๆ
ได้ชั่วครู่ก็รู้สึกว่ามีผู้ชายเดินเข้ามาในห้อง พูดจาอะไรเบาๆ
กับใครก็ไม่รู้...สุ้มเสียงบอกว่าลิ้นไก่สั้นนิดหน่อย
ก็คงจะเมามาได้ที่แล้วแหละ...
ว่าแต่พิษไข้ทำให้ผมเพี้ยนไปขนาดนี้เชียวเรอะ? มองเห็นอะไรเป็นตุเป็นตะไปได้
อ้าว? ผู้ชายคนนั้นถอดเสื้อกางเกงออกแล้ว
ยังดีที่มีผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างไม่ถึงกับอุจาดเกินไป...ว่าแต่เขากำลังคุย
กับใคร หัวเราะหัวใคร่ เอื้อมมือไปไขว่คว้า
ทำท่ากอดจูบความว่างเปล่าอยู่ใกล้ๆ เตียงผมเอง
เอ...นี่มันฝันหรือจริงกันแน่? พิษไข้ล้วนๆก็ไม่รู้ซีครับ
แต่เขาทำท่ากอดประคองใครลงนอนข้างๆ ผม...ผมยุ่ง นัยน์ตาแดง
หน้าเยิ้มเหงื่อดูเป็นมันย่อง ดูหื่นห่ามไปหมดทั้งหน้าตาและท่าทาง
ก่อนจะพลิกร่างขึ้นมายงโย่ยงหยกเหมือนกันว่าเขากำลังจะ...จะ...
เฮ้ยๆ ๆ นี่อะไรกันวะ? ใครมาทำสัปดนอยู่บนเตียงผมตำตา!
ฉับพลันทันใด ร่างนั้นก็ฟุบฮวบลง หน้าตาบิดเบี้ยวเหยเก...ไม่ใช่ความสุขสุดๆ
นะครับ อย่าเข้าใจผิด แต่เห็นชัดว่าเป็นความเจ็บปวดรวดร้าวสุดขีด
ผมได้ยินเสียงคล้ายสำลักลมหายใจ ก่อนที่ร่างนั้นจะหล่นลงไปข้างเตียง
นรกเป็นพยาน! ผมลืมความเจ็บไข้ได้ป่วยของตัวเองสิ้นเชิง ลุกพรวดขึ้นมานั่งจ้องมองอย่างตะลึงงัน...
ร่างนั้นดิ้นทุรนทุรายไม่ถึงอึดใจ ก่อนจะแน่นิ่ง นัยน์ตาเหลือกลานเบิกโพลง
ปากอ้าค้างเหมือนโพรงถ้ำล้ำลึก...ก่อนจะค่อยๆ ละลายหายไป
กลายเป็นความว่างเปล่าตามเดิม
ให้ตายเถอะ! จะเพราะพิษไข้หรือเปล่าผมไม่แยแสอีกแล้ว
แต่กระโดดผลุงไปที่ประตู
ถอดกลอนมือไม้สั่นระรัว...เผ่นอ้าวลงไปที่ห้องพนักงานต้อนรับทันใด...คนขับ
แท็กซี่ที่ผมเห็นหิ้วสาวเข้ามาในห้องนั้นจนหัวใจวายน่ะซีครับ! บรื๋ออออ....
ที่มาจาก http://www.shockfmclub.com
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น