วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วิญญาณ ของ น้าชาย







วันอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ผมนั่งซักผ้าอยู่คนเดียวในหอพักใกล้มหาวิทยาลัยแถวรังสิต เพราะเพื่อนนักศึกษาที่เช่าห้องอยู่ด้วยกันกลับบ้านที่คลองเตย ส่วนผมอยู่บางขุนนนท์... ขณะนั้นเองผมก็ได้กลิ่นน้ำหอมหลังโกนหนวดที่น้าผมชอบใช้ประจำ

น้านนท์แก่กว่าผมไม่กี่ปี เรียนจบจากแอลเอมาหมาดๆ หอบเครื่องสำอางผู้ชายมาเป็นกะตั๊ก...เป็นกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน!

พอได้กลิ่นนี้ปุ๊บ ผมก็นึกว่าน้านนท์มาหาแน่แล้ว เพราะประตูไม่ได้ล็อกเพื่อนฝูงชอบเดินเข้าเดินออกกันบ่อยๆ ผมเรียกน้านนท์และเดินออกมามองๆ แต่ไม่เห็นแม้แต่เงา เปิดประตูไปดูตรงทางเดินหน้าห้องก็ไม่มี

เอ๊ะ! มันยังไงกันแน่หว่า?

แต่แปลกนะครับ กลิ่นน้ำหอมหลังโกนหนวดดูเหมือนจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเฉพาะหน้าประตู ห้องน้ำเท่านั้น ชนิดก้าวออกมาแค่ก้าวเดียวก็ไม่ได้กลิ่นแล้ว ไม่เหมือนกลิ่นปกติที่มันจะลอยฟุ้งไปทั้งห้อง โชยไปโชยมาตามกระแสอากาศ แต่นี่หน้าต่างก็เปิด ลมก็โกรก แต่กลิ่นยังเป็นกลุ่มเป็นก้อน นิ่งอยู่ตำแหน่งเดียว

ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรมาก แต่รู้สึกว่ามันแปลกดี สนุกด้วย...ก้าวเข้าไปก็ได้กลิ่น ถอยออกมาก็หมดกลิ่น!

เรื่องแปลกยังไม่จบครับ ผมซักผ้าเสร็จก็ตากที่ระเบียง นึกในใจว่าเดี๋ยวจะโทร.เข้ามือถือน้านนท์ ตอนนี้อยู่ไหนหนอ? น้าคงคิดถึงเรามากจึงส่งกระแสจิตมาหา...

แต่ขณะที่ผมเดินไปเดินมาระหว่างห้องน้ำกับระเบียง ผมเกิดความรู้สึกว่ากลุ่มก้อนของน้ำหอมเคลื่อนจากที่เดิม จากหน้าห้องน้ำมาตรงประตูทางออกระเบียงเหมือนมีน้านนท์ยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ

ที่หน้าห้องน้ำไม่มีกลิ่นครับ! สาบานเลย กลิ่นนั้นค่อยๆ เคลื่อนไม่ใช่หายจากห้องน้ำมาอยู่หน้าระเบียงหรอก แต่มาช้าๆ ทีละก้าว ทีละสเต็ป ย้ายจากที่เดิมมา�
��รื่อยๆ

ตอนนั้นผมเริ่มนึกอะไรออกแล้ว...มือที่จะตากผ้าชะงัก ใจหายวูบและเริ่มสังหรณ์! วางผ้าลงกะละมังแล้วรีบโทร.เข้ามือถือน้านนท์แต่ไม่มีใครรับสาย ผม มองนาฬิกา...ห้าโมงเช้าพอดี!

รีบโทร.กลับบ้านไปหาแม่ แม่บอกว่าน้านนท์ไปพัทยา พาสาวไปเที่ยว ผมฟังแล้วไม่สบายใจ หันซ้ายหันขวา แล้วก็ เหมือนมีอะไรมาบอกให้เปิดวิทยุฟัง จส.100

ได้เรื่องเลยครับ!

เสียงรายงานข่าวอุบัติเหตุ รถยี่ห้อและทะเบียนของน้านนท์เสยกับสิบล้อ...ผู้ชายคนหนึ่ง ก็คงน้านนท์แน่ละ และผู้หญิงสามคนบาดเจ็บ หน่วยกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาลและกำลังติดต่อญาติ...ผมรีบโทร.บอกแม่ แม่ตกใจมากและรีบติดต่อ จส.100 และโรงพยาบาลที่รับตัวคนเจ็บไว้ทั้งหมด

ผมรีบกลับบ้าน แล้วครอบครัวเราก็รีบบึ่งรถไปโรงพยาบาล

...น้านนท์คอหัก หมดสติ โคม่าจนมาสิ้นลมที่ห้องฉุกเฉิน ส่วนสามสาวเจ็บกันคนละเล็กน้อย...พวกเธอร้องไห้เสียดายความหล่อและความดีงาม ของน้านนท์ของผมมาก

ผมน้ำตาไหล มองดูศพน้านนท์ซึ่งบาดแผลแทบไม่มีเลย นอกจากรอยช้ำที่หน้าผาก และรอยบวมนิดๆ แถวคอเท่านั้น เขาดูเหมือนคนนอนหลับมากกว่า สงบและยิ้มนิดๆ ด้วยซ้ำ...เหมือนจะบอกลา! แม่เศร้ามาก พอได้สติในหลายชั่วโมงต่อมา แม่ถามผมว่ามีสังหรณ์อะไรหรือ?

เมื่อแม่ได้ฟังแล้วก็ดูผ่อนคลายลง แม่สบายใจขึ้นแม้จะยังเศร้า แม่พูดว่า ถ้างั้นวิญญาณก็มีจริงน่ะซี! และถ้าวิญญาณมีจริง สักวันเรากับน้านนท์ก็จะได้พบกันอีกในโลกหน้า...หรือโลกหลังความตาย!

ฟังแบบนี้ก็โล่งใจ หายเศร้าไปเยอะ

ผมปลอบแม่ให้คิดเสียว่า ตอนนี้น้านนท์กลับไปทำงานที่เมืองนอก เราจากกันแค่ชั่วคราวแล้วจะเจอกันอีก ความตายไม่น่ากลัวหรอกครับถ้าเราทำความดีอยู่เสมอ...แต่กับคนที่ทำผิดคิด ชั่ว ความตายก็น่าสยองนะครับ!!



เรื่องเล่าจาก ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น