วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประสบการณ์ขนหัวลุก จากคนเล่นของ




จองเวร เรื่องราวชีวิตคนเล่นของอย่างลุงดั่น

"คนบ้านนา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคนเล่นของ

สมัยเด็กผมอยู่ อ.บ้านนา จ.นครนายก ได้พบเห็นเรื่องแปลกๆ ทางไสยศาสตร์ นอกจากพระเครื่องกับตะกรุดและผ้ายันต์แล้ว ยังมีการเคี้ยวว่านให้หนังเหนียวและการสักยันต์

ในหมู่บ้านมีชายชราอายุห้าสิบเศษชื่อลุงดั่น ทำสวนผักอยู่ใกล้ๆ กัน ลูกเต้าแกล้วนเติบโตแยกย้ายไปหมดแล้ว อยู่กับเมียชื่อป้าแวว เป็นคนเล่าเรื่องของขลังต่างๆ ให้ผมฟังหลายเรื่อง โดยเฉพาะความเชื่อถือกฎเกณฑ์เก่าๆ อย่างเคร่งครัดแทบไม่น่าเชื่อด้วยซ้ำไป!

ลุงดั่นบอกว่าคนเล่นของจะไม่ยอมกินอาหารในงานศพ ถ้าไปงานศพกลับมาต้องล้างหน้าด้วยน้ำมนต์ หรือน้ำแช่ใบทับทิม

ไม่กินผลไม้ เช่น มะเฟืองและละมุดเด็ดขาด เพราะ ถือว่าคล้ายกับอวัยวะเพศสตรี แม้แต่น้ำเต้าก็ไม่ ยอมกิน เนื่องจากทั้งชื่อและลักษณะเหมือนทรวงอก ผู้หญิง

ไม่ลอดราวตากผ้า ไม่ลอดใต้บันได เชื่อว่าจะทำให้ "ของเสื่อม"

ถ้าเข้าส้วม (หรือเวจ) ข้างบ้าน แล้วมีใครมาตะโกนเรียกก็จะไม่ยอมขานรับเลย จนกว่าจะเสร็จธุระ โผล่ออกมาแล้ว

ทำน้ำมนต์เอาไว้กินเอง! เสกทั้งน้ำล้างหน้าและแป้งผัดหน้า จะไปไหนก็ดูเมฆ สังเกตลมหายใจว่าคล่องจมูกด้านซ้ายหรือด้านขวา จะได้ก้าวขาข้างนั้นออกไปก่อน

ลุงดั่นมีห้องพระเล็กๆ อยู่ข้างห้องนอน แกเคยพาผมเข้าไปดูครั้งหนึ่งก็เห็นบรรยากาศทึบทึมน่ากลัว มีทั้งพระพุทธรูปกับเทวรูป ตุ๊กตาเด็กสูงราวหนึ่งศอกปิดทองแทบทั้งตัว...แกบอกว่าเลี้ยงกุมารทองไว้เฝ้า บ้านด้วย

"ถ้าใครคิดร้ายบุกเข้ามา กุมารทองของข้าก็จะจัดการมันเอง!"

แกบอกผมเสียงหัวเราะ แต่แววตาดูเหี้ยมเกรียมน่าขนลุก พ่อผมเล่าว่า เมื่อยังหนุ่มๆ ลุงดั่นเป็นนักเลงใหญ่ ก่อศัตรูไว้มากมาย แม้ว่าต่อมาแกจะวางมือหรือ "ถอดเขี้ยวถอดเล็บ" แล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่าพวกศัตรูเก่าๆ ยังจะตามอาฆาตจองเวรอยู่หรือเปล่า?

ด้วยเหตุนี้เอง ลุงดั่นจึงต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา!

วันหนึ่งก็เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงสัตว์ขู่คำราม กับเสียงเด็กแผดร้องโหยหวน ตามด้วยเสียงแช่งด่าของลุงดั่น...จนกระทั่งเสียงน่ากลัวต่างๆ เงียบหายไป พวกเราจึงจุดไฟออกไปดู

ภาพที่เห็นทำให้ตกตะลึงไปตามๆ กัน!

ลุงดั่นนุ่งกางเกงขาก๊วยตัวเดียว หน้าอกกับแผ่นหลังพราวด้วยลายสักยันต์ มือถือดาบจังก้าอยู่ที่หัวบันได สายลมพัดยอดไม้ดังซู่ซ่าเกรียวกราว ฟังเหมือนเสียงใครกลุ่มหนึ่งกำลังหัวเราะครืนอย่างเย้ยหยัน...ขบขันเต็ม ประดา

"มาฆ่ากูซีวะ ไอ้เดนนรก! เมียกูไปทำอะไรให้มึง ไอ้หน้าตัวเมีย...รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้"

เพื่อนบ้านช่วยกันปลอบโยน ลุงดั่นโยนดาบทิ้ง นั่งลงซบหน้ากับฝ่ามือสะอื้นฮัก...เมื่อคนอื่นๆ เข้าไปในห้องนอนก็ผงะหน้าไปตามๆ กัน

ป้าแววนอนหงายลืมตาโพลงเลือดแดงฉานท่วมตัว ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งจนหลายคนเบือนหน้าหนี...ที่ใบหน้าและทรวงอกมีริ้วรอย เหมือนถูกกรงเล็บสัตว์ฉีกเหวอะหวะน่าสยดสยอง...ใกล้ๆ กันนั้นมีร่างของตุ๊กตาที่เรียกว่ากุมารทอง คอขาด แขนขาหักรุ่งริ่งแทบกลายเป็นเศษดินด้วยซ้ำไป!

ไม่ต้องบอกก็รู้กันดีว่า ศัตรูเก่าของลุงดั่นตามอาฆาตจองเวรอย่างไม่ลดละ...แม้ว่าจะทำร้ายลุงดั่นไม่ได้ เมียของแกก็ต้องรับเคราะห์แทน

เมื่อเผาศพป้าแววแล้ว ลุงดั่นก็เอาสายสิญจน์มาล้อมบ้านไว้ ตอนกลางคืนก็ถือดาบลงไปเดินวนเวียนรอบบ้าน ด้วยความหวาดระแวงว่าศัตรูยังไม่เลิกราที่จะล้างผลาญชีวิตแกให้จงได้

สิ่งที่ทำให้เพื่อนบ้านขนหัวลุกก็คือ ตอนดึกๆ เมื่อลุงดั่นขึ้นไปนอนแล้ว มักมีเสียงหมาหอนโหยหวน ดังเยือกเย็นเข้าไปถึงหัวใจ...หลายๆ คนโผล่หน้าต่างดูก็เห็นป้าแววเดินเลาะอยู่ริมรั้วที่มีสายสิญจน์ล้อมรอบ พลางร่ำไห้สะอึกสะอื้นน่าสะเทือนใจ...ก่อนจะลับหายไปทางป่าช้า

อีกราวเดือนเศษ ลุงดั่นก็นอนหลับไปตลอดกาล...

น่าประหลาดที่ตามร่างกายไม่ปรากฏว่ามีบาด แผลใดๆ เลย คนลือกันว่าป้าแววหาโอกาสเข้าไปในบ้านจนได้ แล้วเอาชีวิตลุงดั่นไปอยู่ด้วย! บางคนก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของศัตรูเก่า ผู้ติดตามอาฆาตจองเวรอย่างไม่ยอมเลิกรา

เรื่องราวชีวิตคนเล่นของอย่างลุงดั่นจึงปิดตำนานลงเพียงนี้เองครับ!

ขนหัวลุก
ใบหนาด



ที่มาจาก    http://www.shockfmclub.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น