ห้องน้ำผีสิง
"ดาวนิล" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องเช่าเมื่อสิบปีเศษมาแล้ว
ดิฉันเป็นรีเซฟชั่นที่โรงแรมระดับ 3 ดาวอยู่แถวประตูน้ำ
มีแขกทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว ถ้าเข้ากะเย็นก็ไปเลิกตีสอง
ค่อนข้างเหนื่อยและปวดหัวกับแขกขี้เมา ส่วนมากจะอยู่ในคอฟฟี่ช็อป
แม้ว่าจะมีกัปตันคอยดูแลก็จริง แต่หลายครั้งก็เดือดร้อนมาถึงดิฉันเข้าจนได้
ตอนหัวค่ำยังไม่เท่าไหร่ แต่พอเลย 4-5 ทุ่มแล้วซิคะ แขกหลั่งไหลเข้ามาแน่น
โดยเฉพาะคืนศุกร์เสาร์ พอรู้ว่าเมามาจากที่อื่นก็มี
เพิ่งออฟสาวจากผับย่านนั้นมาก็มี ขนาดมาจากโรงนวดแล้วก็ไม่น้อย แต่หลายๆ
โต๊ะก็มาสนุกเฮฮากันเป็นขาประจำ
ส่วนมากเมาแล้วมักชอบเจ๊าะแจ๊ะกับเด็กเสิร์ฟ
ประเภทปากเปราะก็พูดสองแง่สองง่าม บางทีก็ล่วงเกินมาถึงดิฉัน
เราทำงานแบบนี้นะคะ จะหงุดหงิดหรือรำคาญใจแค่ไหนก็ต้องยิ้มไว้ก่อน
"น้องตูน" เป็นเด็กเสิร์ฟใหม่ อายุ 20 ต้นๆ ขาวสวย หุ่นดี
พวกแขกไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ก็คอยแทะโลมเป็นประจำ หรือไม่ก็แซวแบบคะนองปาก
ถ้าลามปามจนทำท่าว่าจะล้ำเส้น ดิฉันก็จะเข้าไปปกป้องน้องตูนไว้ก่อน
ทำให้เธอซาบซึ้งมากๆ ขอบคุณน้ำตาคลอเชียว
วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์กลับตาลปัตร..น้องตูนเป็นฝ่ายช่วยเหลือดิฉัน
ราวกับจะเป็นโอกาสให้เธอได้ตอบแทนน้ำใจ
โดยที่เราต่างก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลย
ดิฉันเวียนหัวมาตั้งแต่หัวค่ำ อาจเป็นเพราะความดันเลือดต่ำทำพิษก็ได้
ต้องเข้าไปนอนพักในห้องพนักงานด้านหลังเคาน์เตอร์
โชคดีอย่างที่คืนวันพุธแขกน้อยกว่าวันอื่นๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ฝืนใจออกมาช่วยดูแลแขกตอนใกล้สองยาม แต่ไม่ช้าก็เกิดวิงเวียนอีก
อยากจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านที่ดินแดงก็สองจิตสองใจ
กลัวว่าจะไปเป็นอะไรกลางทางละแย่เลย!
พอตีหนึ่งกว่า
น้องตูนก็ไปบอกรองผู้จัดการว่าขอพาดิฉันไปหาหมอก่อน..แต่เมื่อขึ้นรถออกมา
เธอก็พาดิฉันไปห้องพักแถวหน้าอินทรานั่นแหละค่ะ
บอกว่าให้นอนค้างห้องเธอจนกว่าจะทุเลา ดิฉันถามว่าทำไมต้องโกหกด้วย
คำตอบของน้องตูนก็คือ
"ถ้าไม่บอกว่าพี่ดาวอาการหนักจนต้องพาไปหาหมอ มีหวังแกไม่ให้เราลางานแน่ๆ เลยค่ะ"
น้องตูนเช่าห้องอยู่คนเดียว ดูสะอาดสะอ้านพอใช้ เธอเอาชุดลำลองมาให้เปลี่ยน
ช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ด้วย คนเราจะเห็นใจกันก็ยามป่วยไข้นี่
แหละค่ะ!
ดับไฟแล้วก็เข้านอนด้วยกัน..ขณะที่กำลังเคลิ้มๆ
ดิฉันก็ได้ยินเสียงสะอื้นมาเข้าหู
ตอนแรกคิดว่าเสียงลมที่ดังผ่านหน้าต่างมุ้งลวดเข้ามา
แต่เมื่อนิ่งฟังก็แน่ใจว่ามันดังอยู่ในห้องนั่นเอง..เดี๋ยวที่ห้องน้ำ
เดี๋ยวหน้าประตูและมุมห้อง ไม่รู้ว่าของจริงอยู่ที่ไหนกันแน่?
อากาศในฤดูฝนเย็นยะเยือก หันมองน้องตูนก็เห็นหลับสนิท ระบายลมหายใจสม่ำเสมอ
ดิฉันเลยพลิกตัวนอนตะแคง
สองมือซุกอกในท่าสบาย..เสียงประหลาดก็ดังขึ้นอีกแล้วค่ะ
คราวนี้เป็นเสียงอาบน้ำ! เสียงซู่ซ่าดังชัดเจน ไม่ใช่หูแว่วเด็ดขาด!!
ดิฉันตัดสินใจลุกมานั่งจ้องไปที่ประตูห้องน้ำ มันปิดสนิทก็จริง แต่เสียงตักน้ำราดเนื้อตัวยังดังไม่หยุด
เอาละซี! ไม่ใช่ฝัน แต่เป็นของจริงแน่ๆ จะว่ากลัวก็กลัว
จะว่ากล้าก็กล้าค่ะ..อาจจะเป็นเพราะมีน้องตูนนอนอยู่บนเตียงทั้งคน
ตั้งแต่เข้าห้องมาก็ไม่ได้เปิดประตูออกไปรับใครซักคนนี่นา..แล้วใครมาอาบน้ำ
ล่ะ? ตัดสินใจกดสวิตช์ไฟ เปิดประตูห้องน้ำผาง..
ท่ามกลางแสงสว่างเยือกเย็นนั้น มีแต่ความว่างเปล่า
พื้นห้องก็แห้งสนิท..เล่นเอาม่านตาพร่าพรายอย่างช่วยไม่ได้
ปากคอแห้งผากไปหมดเลยค่ะ ตอนที่ถอยกลับมาที่เตียงโดยไม่ยอมปิดไฟ
คุณพระช่วย! เพียงแต่ล้มตัวลงนอน ชักผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงอกเท่านั้น เสียงสะอื้นก็ดังขึ้นอีกแล้ว!
ห้องนั้นดูสว่างขึ้นกว่าเดิม กลั้นใจมองไปรอบๆ
ก็ไม่เห็นอะไรเลย..น้องตูนก็ยังหลับสนิทจนน่าอิจฉา
อยากจะปลุกขึ้นมาถามเหลือเกินว่าห้องนี้มีอะไรแน่?
แต่ก็เกรงใจน้องที่กำลังนอนหลับอย่างผาสุก
เสียงสะอึกสะอื้นคร่ำคราญหายไป..เสียงอาบน้ำซู่ซ่าดังขึ้นแทนที่!
ดิฉันอ้าปากค้าง..ทั้งๆ ที่ประตูเปิดแง้ม ไฟยังสว่างโพลงตามเดิม
โอย..ทนไม่ไหวแล้วค่ะ!
"ตูนๆ" ต้องเขย่าแขนสาวน้อยให้ตื่นจนได้ เธอถามเสียงงัวเงียว่าอะไรคะพี่?
ดิฉันยังไม่ทันตอบ เสียงราดน้ำน่าสยองขวัญก็หายไป
แต่พอตูนหลับต่อเสียงซู่ซ่าก็ดังขึ้นมาอีก
ดิฉันปลุกตูนขึ้นมาอีกครั้ง เธอคงนึกอะไรขึ้นมาได้
ถามว่าห้องน้ำทำพิษใช่ไหมคะ? แหม!
ตูนก็ลืมบอกให้พี่จุดธูปบอกเขาก่อนนอน..แล้วเธอก็จัดการให้ดิฉันจุดธูปบอก
กล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เสียงต่างๆ
ก็เงียบไป..ดิฉันสาบานว่าจะไม่ไปนอนค้างที่นั่นจนชั่วชีวิตเลยค่ะ!
คอลัมน์ ขนหัวลุก
ใบหนาด
ที่มาจาก http://www.shockfmclub.com
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น